back to top

เดินออกจากความเครียดให้ทัน

ใครๆ ก็รู้ว่านอกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตทั้งอาหาร และการไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแล้ว ความเครียดก็มีผลอย่างยิ่งยวดไม่แพ้และอาจมีผลมากที่สุดก็ว่าได้ หลายคนไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองเครียด ให้สังเกตสัญญาณเตือนเมื่อเครียดเกินไปจะหายใจเร็ว รูจมูกขยาย จากการที่ปอดขยายตัวสร้างออกซิเจนสู่กล้ามเนื้อมากขึ้น ต้องการช่องทางเดิน อากาศที่กว้างมากขึ้น, ขนลุก เนื่องจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังหดตัว, อยากอาหารมากกว่าปกติ เนื่องจากต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนเร่งการเผาผลาญอาหารออกมามาก ทำให้ร่างกายถูกกระตุ้นจนอยากอาหาร, คลื่นไส้ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารรวมถึงลำไส้เล็กแปรปรวนไป, รู้สึกหงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป

ในทางการแพทย์แล้ว ความเครียดส่งผลทางร่างกายแน่นอน ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน โรคกระเพาะ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดกล้ามเนื้อ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองแตก ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง และยังทำให้เกิดปัญหาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อได้ง่าย 

ส่วนความเครียดที่ส่งผลต่อจิตใจก็จะแสดงออกมาทางด้านของอารมณ์แปรปรวน อารมณ์ร้าย หรือมีอาการซึมเศร้า ข้างในจิตใจมีความวิตกกังวล หดหู่ ซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย รวมไปถึงความรู้สึกขาดความภูมิใจในตนเอง ขาดสมาธิ ส่งผลต่อด้านพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ร้องไห้ง่าย ไม่อยากทำอะไร ขาดความอดทน เบื่อง่าย ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง เริ่มปลีกตัวจากสังคม ไม่ดูแลตัวเอง บางคนอาจใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้อื่น 

ความเครียดมักมาจาก 2 ส่วน คือ ความเครียดจากงาน และจากตนเอง จากงานอาจมาจากงานมาก งานหนัก งานกับเวลาไม่เหมาะสมกัน ทำให้ทำไม่ทัน หรือทำออกมาไม่มีประสิทธิภาพ งานไม่ตรงความสามารถ หรือมีสิ่งแวดล้อมจากการทำงานที่ทำให้เครียดได้เช่นกัน อย่างเสียงดัง กลิ่น หรือขาดสิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนเครียดจากคนในที่ทำงานก็มีไม่น้อย ทั้งจากเจ้านายเพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง เพราะขาดความเข้าใจ และการมีจิตเมตตาที่จะช่วยเหลือกันอย่างจริงใจ 

ส่วนความเครียดจากตนเอง ก็มีผลมาจากงาน และชีวิตส่วนตัวพอๆ กัน มีความคาดหวังต่อตนเอง และผู้อื่นสูง หรือใจร้อนต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรืออาจมาจากสุขภาพของตนเอง หรือเครียดที่มาจากชีวิตของคนรอบข้างๆ ที่ส่งผลต่อจิตใจของเรา เช่น พ่อแม่ลูกหรือญาติพี่น้อง 

หากเกิดอาการเหล่านี้วิธีเอาตัวรอดจากความเครียดของคนทั่วไป แบบง่ายๆ เร็วๆ ก็จะระบายความเครียดด้วยการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ใช้ยานอนหลับ หรือใช้สารเสพติด หรือกระทำความรุนแรง

แต่เรามีวิธีที่ดีกว่านี้มาฝาก โดยก่อนอื่นให้เอาตัวเองออกมาให้พ้นจากความเครียดให้ได้มากที่สุด ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อเกิดความเครียด และการวิตกกังวล ให้ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นการผ่อนคลายตัวเอง เช่น เดิน ฟังเพลง วาดรูป อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือนั่งสมาธิ หรือจะใช้วิธีระบายด้วยการโทรหาเพื่อน หรือเขียนระบายความเครียด เมื่อเรารู้สึกผ่อนคลายแล้ว ก็มีโอกาสที่เราจะหาทางแก้ไขที่ต้นเหตุได้มากกว่าจมกับความเครียด และสะสมไม่รู้ตัวจนมีผลต่อสุขภาพ 

ข้อมูล : รพ.รามาธิบดี