ภาวะการอักเสบหรือติดเชื้อในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ โดยผู้ป่วยจะมีอาการและอาการแสดงเบื้องต้น คล้ายกับอาการอักเสบหรือติดเชื้อในระบบอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น มีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ครั่นเนื้อครั่นตัว ทำให้มีอาการคล้ายผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่
ผศ.พิเศษ นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยที่มีการอักเสบติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง มักจะมีอาการแสดงความผิดปกติทางระบบประสาทที่มากกว่าและชัดเจนกว่า เช่น มีอาการปวดศีรษะเฉพาะที่หรือปวดทั่วๆ รุนแรง มีอาการปวดตึงต้นคอ คอแข็ง ขยับคอลำบาก มีอาการสับสนความคิดความจำผิดปกติ มีอาการซึมหรือความรู้สึกตัวลดลงที่ชัดเจน ซึ่งต้องแยกจากอาการซึมในผู้ป่วยที่มีไข้จากสาเหตุอื่น ที่ยังสามารถปลุกตื่นรู้ตัวรู้เรื่องดีกว่า เป็นต้น
ทางด้านว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิง แพทย์หญิงนภา ศิริวิวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีกลุ่มอาการอักเสบในระบบประสาทส่วนกลาง ที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อ เช่น กลุ่มอาการสมองอักเสบจากระบบประสาทภูมิคุ้มกัน ที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่นำมาก่อน ซึ่งไม่สามารถแยกจากกันได้ชัดเจนในระยะแรก จำเป็นต้องติดตามอาการเป็นระยะ จนกว่าผู้ป่วยจะมีอาการแสดงทางระบบประสาทที่ชัดเจน จึงจะสามารถให้การวินิจฉัยแยกโรค ออกจากอาการอักเสบหรือติดเชื้อในระบบอื่นๆ ของร่างกายได้
ดังนั้น หากมีอาการไข้ ร่วมกับอาการในระบบต่างๆ ของร่างกายที่ชัดเจน เช่น เจ็บคอ มีน้ำมูก ไอมีเสมหะ ปวดท้อง ปัสสาวะแสบขัด มีผื่นหรือมีแผลชัดเจน ขอแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาเบื้องต้นกับแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์เฉพาะทางสาขาที่เกี่ยวข้อง
แต่หากมีอาการไข้ ที่ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่มีอาการอักเสบได้ชัดเจน ร่วมกับมีอาการที่น่าสงสัยว่ามีความผิดปกติทางระบบประสาท ได้แก่ อาการปวดศีรษะเฉพาะที่หรือปวดรุนแรง อาการปวดตึงต้นคอ คอแข็ง ความรู้สึกตัวลดลง ความคิดความจำผิดปกติ ซึม สับสน อาการแขนขาอ่อนแรง หน้าเบี้ยวปากเบี้ยว อาการชักเกร็ง แนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาเบื้องต้นกับแพทย์ทั่วไปหรืออายุรแพทย์ ร่วมกับขอรับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางระบบประสาท เพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพราะกลุ่มอาการอักเสบ หรือติดเชื้อในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง มีความยุ่งยากซับซ้อนกว่าระบบอื่นๆ ของร่างกาย แต่หากได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถทุเลาอาการและความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิตและภาวะ ทุพพลภาพที่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อโดยตรง หรือภาวะแทรกซ้อนจากความเสียหายในระบบประสาทได้