back to top

เป็นไตได้แม้ไม่ได้กินเค็ม อาหารปกติบางอย่างก็ทำไตเสื่อมได้

อาหารทำร้ายไตไม่ได้มีเฉพาะอาหารรสเค็มเท่านั้น อาหารรสชาติอื่นๆก็ทำไตเสื่อมได้เช่นกัน ซึ่งบางเมนูเรากินกันประจำโดยไม่รู้ว่าตัวว่ากำลังทำร้ายร่างกาย นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “หมอเจด” ที่ออกโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารทำลายไตอื่นๆ นอกเหนือจากอาหารเค็ม เพื่อทำให้คนรักสุขภาพดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง โดยมีอาหารหลายชนิดที่กินกันเป็นประจำ ทำให้ไตเสื่อม ประกอบด้วย

1. ขนมปัง หรือเบเกอรี่ต่างๆ อาทิ เค้ก โดนัท ครัวซองต์ เพราะผงฟูที่ใช้ทำขนมปังก็คือเกลือชนิดหนึ่ง ซึ่งผงฟูมีโซเดียมแฝง ทำให้ไตต้องขับเกลือออกมากขึ้น และบางชนิดมี ฟอสฟอรัสสูง ทำให้เกิดหินปูนสะสมในไตและหลอดเลือด ซึ่งหากไตเสื่อมแล้ว จะขับฟอสฟอรัสออกได้ไม่ดี อาจเกิดไตวายเร็วขึ้นๆ หากต้องการลดความเสี่ยง ให้เลือกขนมปังโฮลวีต ขนมปังยีสต์ธรรมชาติ (Sourdough)

2. ชาไข่มุก หรือเครื่องดื่มหวานๆ อาทิ กาแฟเย็น หรือชาเขียวปั่น ซึ่งเป็นเมนูที่หลายคนกินทุกวัน บางคนกินวันละหลายแก้ว ซึ่งบางแก้วมีน้ำตาลมากถึง 10-15 ช้อนชา การกินหวานมากๆ ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเมื่อสะสมไปเรื่อยๆ จะเสี่ยงเบาหวาน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของไตเสื่อม เพราะน้ำตาลสูง ทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไตเสื่อมลง ไตค่อยๆ พังไปเรื่อยๆ แนะนำให้เลือกหวานน้อยหรือไม่ใส่น้ำตาลเลย

3. ข้าวขาว ก๋วยเตี๋ยว และอาหารฝรั่งแป้งสูง เช่น พาสต้า ซึ่งแป้งขัดสีทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นเช่นกัน เนื่องจากข้าวขาว หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งเร็ว และน้ำตาลสูงเรื้อรัง กระตุ้นให้เกิดเบาหวาน และทำให้ไตเสื่อม เพราะไตต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อกรองน้ำตาลและของเสียที่เกินในเลือด แนะนำให้เปลี่ยนเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และควรลดบริโภคแป้ง 

4. น้ำจิ้ม ซอส ที่หลายคนมองข้ามอันตราย ซึ่งซอสปรุงรสไม่ว่าจะเป็นซีอิ๊ว น้ำปลา ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรือ น้ำจิ้มหมูกระทะ น้ำราดข้าวมันไก่ ทำให้ไตพังเงียบๆ เนื่องจากโซเดียมสูงมาก ไตต้องทำงานหนักเพื่อขับเกลือออกจากร่างกาย และซอสบางชนิด แฝงน้ำตาลเยอะ เช่น ซอสบาร์บีคิว น้ำจิ้มสุกี้ เทอริยากิ ทำให้เสี่ยงเบาหวานและไตเสื่อม รวมถึงมีสารกันเสีย ผงชูรส และฟอสฟอรัสแฝงอยู่ ซึ่งไตต้องกรองออก แนะนำเลือกสูตรโซเดียมต่ำ หรือทำน้ำจิ้มเอง เพื่อลดความเสี่ยง

5. ผลไม้และน้ำผลไม้บางชนิดมีน้ำตาลสูงมากเช่น ทุเรียน ขนุน ลำไย มะม่วงสุก หากกินเยอะย่อมเสี่ยงน้ำตาลพุ่งสูง เพราะน้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้ถูกดูดซึมง่าย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ส่วนน้ำผลไม้ไม่มีไฟเบอร์ ทำให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดเร็ว ดังนั้นผู้ที่เป็นไตเสื่อมต้องระวังโพแทสเซียมในผลไม้ หากขับออกไม่หมดอาจเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย ดังนั้นผลไม้เป็นอาหารสุขภาพก็จริง แต่ก็ต้องกินได้ในปริมาณเหมาะสมและเลือกกินด้วย เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว เบอร์รี่ ส้มโอ เป็นต้น และให้เลือกกินผลไม้สดดีกว่าปั่นเป็นน้ำ

หากเป็นผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพ แนะนำให้อ่านฉลากอาหาร และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียม และฟอสฟอรัสต่ำ เพื่อดูแลตนเองแต่เนิ่นๆ ป้องกันไว้ก่อนจะต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต