back to top

Student Voice เมื่อครูเปิดใจฟัง เด็กก็พร้อมเติบโต

ปรากฏการณ์ “หมอนทองวิทยา” ทำให้ผู้คนทั้งประเทศหันมาสนใจฟุตบอลเยาวชน หันมาสนใจความฝันของเด็กน้อยหลายคน จากการขึ้นสู่สนามรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลแชมป์นักเรียน 7 คน “แชมป์กีฬา 7HD 2025” ของเด็กนักกีฬาโรงเรียนหมอนทองวิทยา กับโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเด็กหลายคนมาจากครอบครัวที่ไม่ได้เพียบพร้อมนัก แต่พวกเขาต่างพกความฝันไม่ต่างกันตลอดหลายปีที่จะก้าวสู่นักกีฬาฟุตบอลมืออาชีพ และไม่ว่าทางเดินสู่เป้าหมายนั้นจะขรุขระเพียงใด พวกเขาไม่เคยออกจากเส้นทางฝัน กระทั่งมายืนอยู่ในจุดที่ทุกคนเห็นพวกเขาในฐานะนักกีฬามืออาชีพในวันนี้ ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป

ทำไมความฝันของพวกเขาจึงยืนหยัดมาได้ ผู้มีส่วนสำคัญที่หลายคนสัมผัสได้คือ “ครู” ที่ได้ยินเสียงความต้องการของพวกเขาและสนับสนุน สำหรับเด็กนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา มี “ครูสกล เกลี้ยงประเสริฐ” เป็นโค้ชคุมทีมฟุตบอลที่ประคับประคองความฝันของเด็กๆ มาตลอดหลายปี และปกป้องไม่ให้หล่นหาย ทำให้เด็กกล้าที่จะทะเยอทะยานในการฝันถึงอนาคต และทำมันอย่างแข็งขัน เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น

เด็กทุกคนต่างมีความฝันอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพ หรืออาชีพใดก็ตาม แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าต้องทำอย่างไรจึงจะไปถึงจุดนั้น และต้องมีแผนอย่างไร

สิ่งที่ผู้ใหญ่จะทำได้คือ การสร้าง “สภาวะความทะเยอทะยาน” ให้พวกเขารู้สึกถึงแรงจูงใจ ซึ่งมีหลัก 3 ประการที่สำคัญ คือ เห็นคุณค่าในตนเอง (SELF-WORTH) ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วม (ENGAGEMENT) และให้พวกเขามีเป้าประสงค์ (PURPOSE)

SELF-WORTH: สำหรับการเห็นคุณค่าในตนเอง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ พื้นฐานคือ พวกเขาจะต้องรู้ว่า “มีคนห่วงใยพวกเขา” ซึ่งความรู้สึกนี้เด็กสามารถได้รับจากครูในโรงเรียนได้ แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมดที่เด็กจะได้รับจากโรงเรียน ครูหลายคนก็ทำให้เด็กตัดขาดการเชื่อมต่อกับโรงเรียน ทำให้พวกเขาโดดเดี่ยว ไม่เข้ากับโรงเรียน และออกไปกลางคัน

ENGAGEMENT: การช่วยให้นักเรียนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่ง และมีความสำคัญทำได้ง่าย เพียงแค่มีอย่างน้อย 1 คนในชีวิตถามถึงความเป็นอยู่ของพวกเขา หากพวกเขาขาดเรียน หรือมีปัญหา ซึ่งครูในโรงเรียนสามารถทำหน้าที่นี้ได้ นอกเหนือจากการทำให้ชั้นเรียนน่าสนุกและน่าตื่นเต้น

ครูสามารถปลูกฝัง กระตุ้นความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น และความคิดสร้างสรรค์ในตัวพวกเขา ในหลายชั้นเรียนที่ทำไม่ได้ ทำให้เด็กหลายคนเบื่อ และลาจากเส้นทางแห่งความฝัน แต่หลายคนก็โชคดีที่ได้เจอครูผู้ให้ความหวังและความฝันกับพวกเขา ครูให้พวกเขามีส่วนร่วมและมีจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ยอมรับความเสี่ยงบางประการ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมาย

PURPOSE: โดยให้นักเรียนมีความรับผิดชอบอย่างแท้จริง ให้รู้สึกว่าพวกเขาไม่เพียงแต่มีความสำคัญ แต่ยังมีเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง และสามารถประสบความสำเร็จได้ ช่วยให้พวกเขามีแรงจูงใจมากขึ้น ซึ่งความเชื่อของเด็กที่ว่า “ครูคาดหวังให้พวกเขาประสบความสำเร็จ” จะมีส่วนสำคัญอย่างมาก และต้องมากกว่าความคาดหวังที่พวกเขามีต่อตัวเอง เชื่อว่ามีครูที่เต็มใจเรียนรู้จากพวกเขา หากครูที่พวกเขาเคารพได้ยินเสียงของพวกเขาอย่างแท้จริง ย่อมสามารถกระตุ้นเด็กๆ ได้มาก

ครูสามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง มีส่วนร่วมกับโรงเรียน และค้นหาเป้าหมายที่แท้จริง และเมื่อพวกเขามีแรงจูงใจ พวกเขาจะพยายามทุ่มเทให้ดีที่สุด และผลักดันตัวเองให้พัฒนา

อย่าให้เกิดสภาวะที่ว่า “ยิ่งเด็กอยู่ในโรงเรียนนานเท่าใด เขาจะมีแรงจูงใจน้อยลงเท่านั้น” ครูมีพลังอำนาจที่จะไม่ทำให้เป็นเช่นนั้นได้ ซึ่งคำว่า “ฮีโร่ของเด็กๆ” ไม่ได้หมายความว่าครูต้องเป็นยอดมนุษย์ แต่หมายความถึงการสร้างความไว้วางใจ หล่อเลี้ยงความฝัน และคอยสนับสนุนพวกเขาให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

อ้างอิง: https://www.kqed.org/mindshift/31728/how-to-help-kids-find-their-aspirations