back to top

สังเกตให้ทัน ป้องกันให้เร็ว โรคหลอดเลือดสมอง ลดความพิการ-เสียชีวิต

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและทั่วโลก ในประเทศไทยโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 1 พบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง เตือนประชาชนสังเกตอาการ หากมีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดลำบาก มองเห็นภาพซ้อนโดยมีอาการแบบเฉียบพลัน ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อลดความพิการหรือเสียชีวิต

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า หากเป็นโรคหลอดเลือดสมองแล้วผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีความพิการหลงเหลืออยู่ ส่งผลกระทบต่อ การดำเนินชีวิตต่อครอบครัว สังคม และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แต่หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและความพิการลงได้ การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด 

โดยประชาชนจะต้องมีความรู้ เรื่องปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค การป้องกัน การปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเมื่อเกิดโรคจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคนี้โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงของโรค ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ภาวะโรคอ้วน ภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

ทั้งนี้ในปัจจุบันโรคหลอดเลือดสมองมีกระบวน การรักษาทั้งการให้ยาฉีดละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง หรือการรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือดสมองภายใน 24 ชั่วโมง 

ทางด้าน นพ.เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการเตือนสำคัญ ที่สังเกตได้ด้วยตนเองคือ อาการแขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดลำบาก ตามัว เห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก และต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง อาการเหล่านี้มักเกิดอย่างเฉียบพลัน ในรายที่มีภาวะสมองขาดเลือดแบบชั่วคราว อาจเกิดอาการขึ้นชั่วขณะแล้วหายไปเอง หรืออาจเกิดอาการขึ้นหลายครั้ง ก่อนจะมีอาการสมองขาดเลือดอย่างถาวร 

สิ่งสำคัญ คือผู้ป่วยต้องสังเกตอาการข้างต้นและรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด จะช่วยลดการเสียชีวิต และความพิการได้ ปัจจุบันมีกระบวนการรักษาทั้งการให้ยาฉีดละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง และการรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือดสมอง หากเป็นหลอดเลือดเส้นใหญ่อุดตันภายใน 24 ชั่วโมง