คุมอาหารเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลดลงสักที! จนท้อ สุดท้ายกินเหมือนเดิม แต่ใครๆ ก็ทราบดีว่าน้ำหนักเกินนำมาสู่โรคภัยต่างๆ แถมทำให้ขาดความมั่นใจด้วย ดังนั้นเมื่อจะถึงปีใหม่กันแล้ว ลองมาตั้งหลักลดน้ำหนักกันจริงจังกันเสียทีเป็นของขวัญปี 2569 ให้ตัวเอง ครั้งนี้เรามีสูตรมาให้เพื่อนๆแบบเห็นผล 7 วัน โดย “หมอเจด” หมอชื่อดังที่ให้คำแนะนำด้านสุขภาพ
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เจ้าของเฟซบุ๊ก “หมอเจด” ที่มีผู้ติดตามหลายแสนคน ออกมาระบุข้อมูลว่า การที่หลายคนพยายามลดน้ำหนักเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที แม้จะลดอาหาร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ มาจากการที่อินซูลินค้างเรื้อรัง ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้น้อยลง, พลังงานตกง่าย หิวบ่อย, น้ำหนักขึ้นง่ายโดยเฉพาะรอบเอว, เพิ่มความเสี่ยงดื้ออินซูลิน เบาหวาน, ไขมันพอกตับ และหลอดเลือดอักเสบ น้ำตาลในเลือดแกว่งตลอดวันอีกด้วย
หลักการแก้อินซูลินค้างแบบ“หมอเจด” มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 รีเซตมื้ออาหาร เริ่มจากหยุดน้ำตาลเหลวทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 2 กินคาร์บให้ถูกจังหวะ ควรกินพร้อมโปรตีนและไฟเบอร์ และหลีกเลี่ยงการกินคาร์บเดี่ยวๆ
ขั้นตอนที่ 3 เพิ่มการเคลื่อนไหวหลังมื้อ
ขั้นตอนที่ 4 เพิ่มไขมันดีให้ถึง
ขั้นตอนที่ 5 นอนให้ลึก 7-8 ชม.
ไม่ได้แนะนำเฉพาะหลักการและขั้นตอนเท่านั้น “หมอเจด” ให้เมนูอาหาร 7 วัน และการเคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อมกันแก้อินซูลินค้างช่วยให้พุงยุบได้ ดังนี้
วันจันทร์
เช้า : ไข่ต้ม 2 ฟอง + ผักลวกหรือแตงกวา
กลางวัน : ข้าวกล้อง 1 ทัพพี + อกไก่นึ่ง/ย่าง + น้ำพริกเล็กน้อย
เย็น : ต้มจืดผักกาดขาวใส่หมูสับ/เต้าหู้
ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 2 ลิตร งดน้ำหวานทุกชนิด และเดินเร็ว 30 นาที
เป้าหมาย : หยุดการกระตุ้นอินซูลินถี่ๆ ให้ร่างกายเริ่มดึงไขมันมาใช้
วันอังคาร
เช้า : โยเกิร์ตไม่หวาน + เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ
กลางวัน : ข้าวไรซ์เบอร์รี่ + ปลาทูต้ม/ย่าง + ผักต้ม
เย็น : ลาบไก่ไม่ใส่น้ำตาล กินกับผักสด
กิจกรรม เดินหลังอาหารทุกมื้อ 10 นาที
เป้าหมาย : ไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดน้ำตาล อินซูลินไม่พุ่งแรง
วันพุธ
เช้า : ไข่ดาวน้ำ/ไข่เจียวไม่แป้ง 2 ฟอง
กลางวัน : แกงเลียง + ข้าวกล้องครึ่งทัพพี
เย็น : ยำทูน่าใส่ผัก ไม่หวาน
กิจกรรม เดินเร็วหรือปั่นจักรยาน 30 นาที
เป้าหมาย : ให้ระดับน้ำตาลทั้งวันนิ่ง ร่างกายไม่ต้องหลั่งอินซูลินเกินจำเป็น
วันพฤหัส
เช้า : กาแฟดำหรือชาสมุนไพรไม่หวาน + ไข่ลวก 2 ฟอง
กลางวัน : ข้าวกล้อง + ปลาย่าง + ผัดผักใช้น้ำมันน้อย
เย็น : สลัดผักราดน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ใส่ถั่วไม่เกินหนึ่งหยิบมือ
กิจกรรม ยืดเหยียดหรือโยคะเบา ๆ 20 นาที
เป้าหมาย : ไขมันดีช่วยให้น้ำตาลขึ้นช้า ลดอาการหิวจุกจิก
วันศุกร์
เช้า : ชาเขียวไม่หวาน
กลางวัน : ส้มตำไทยไม่หวาน + ไก่ย่าง + ข้าวเหนียวครึ่งกำมือ
เย็น : เกาเหลาเนื้อ/หมู ไม่เติมน้ำตาล + ไข่ต้ม
งดกินหลัง 19.00 น.
กิจกรรม เดินให้ได้ประมาณ 8,000–10,000 ก้าว
เป้าหมาย : ลดอินซูลินช่วงค่ำ เปิดโอกาสให้ร่างกายเผาไขมันสะสม
วันเสาร์
เช้า : สมูทตี้ผักใบเขียว + ผลไม้ไม่หวานมาก 1 ชนิด ไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน : สุกี้น้ำหรือก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ไม่ใส่น้ำจิ้มหวาน
เย็น : ลาบปลา/ลาบไก่ + ผักสด
กิจกรรม HIIT เบาๆ 10–15 นาที หรือเดินขึ้นบันได (HIIT หรือ High Intensity Interval Training ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบ “สลับช่วง” ระหว่างช่วงที่ใช้แรงมาก (ความเข้มข้นสูง) กับช่วงที่พักหรือออกกำลังกายเบาๆ (ความเข้มข้นต่ำ) เช่น วิ่งเร็วสลับเดิน) เสริมด้วยการยืดกล้ามเนื้อหรือนวดเบาๆ
เป้าหมาย : ให้กล้ามเนื้อดึงน้ำตาลไปใช้แทนอินซูลิน
วันอาทิตย์
เช้า : โยเกิร์ตไม่หวาน + กล้วยครึ่งลูก + ข้าวโอ๊ตเล็กน้อย
กลางวัน : แกงจืดสาหร่ายเต้าหู้ + ปลานึ่งซีอิ๊ว
เย็น : ข้าวกล้องครึ่งทัพพี + ไข่ตุ๋น + ผักต้ม
กิจกรรม เดินสบายๆ + ฝึกหายใจลึกก่อนนอน
เป้าหมาย : ฟื้นจุลินทรีย์ลำไส้ ช่วยคุมน้ำตาลและความอยากอาหาร
…เสิร์ฟสูตร 7 วันง่ายๆ ทำได้เลยแบบนี้แล้ว จะรออะไร เริ่มพรุ่งนี้กันเลย !
ที่มา : facebook “หมอเจด”
