ไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบันตั้งแต่เด็กถึงผู้สูงวัยที่ใช้สายตากับโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวันเป็นเวลานาน รวมถึงผลจากสภาพแวดล้อม เช่น ฝุ่น PM 2.5 มีผลต่อดวงตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางที่รักษาดวงตามีไม่เกิน 5 ราย
หลังจากอยู่ในแวดวงคลินิกเวชกรรมรักษาดวงตามาเป็นเวลา 12 ปี ภายใต้แบรนด์ “AT MEDICAL CLINIC” รักษามา 55,000 เคสกับสาขา 10 แห่งทั่วประเทศ และคลินิกแว่นตา “CHUD+” บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จึงทุ่มทุนกว่า 600-700 ล้านบาท เปิดตัว “Eye Bangkok Hospital” โรงพยาบาลตากรุงเทพ ย่านเพชรเกษม
แพทย์หญิงอาภรณ์ ไชยเครื่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จำกัด เปิดเผยว่า อายุ และสภาพแวดล้อม รวมถึง ฝุ่น PM 2.5 และการใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์นานๆมีผลกระทบกับดวงตากับคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นประจำ วัยทำงานที่ใช้สายตามากในการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ และการที่ต้องออกไปทำงาน ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับฝุ่น PM 2.5 ไปจนถึงผู้สูงอายุที่จะเกิดโรคตาตามวัย เช่น ต่อกระจก วุ้นตาเสื่อม เป็นต้น จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝุ่น PM 2.5 หากต้องออกไปข้างนอกควรใส่แว่นป้องกัน หรือหยอดน้ำตาเทียม หากละเลยจะทำให้เกิดการระคายเคืองตา ตาพร่ามัว ตาแห้ง ตาแดง แสบ และติดเชื้อได้ และทุกช่วงวัยควรเข้ารับการตรวจดวงตาทุกๆ ปี อย่ารอให้มีโรค เพราะการตรวจแต่เนิ่นๆ จะทำให้เห็นความผิดปกติของดวงตาได้ และรักษาดูแลอย่างทันท่วงที
นายทศพล โชติคุตร์ ประธานสำนัก CEO บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ กล่าวว่า เราเปิดตัวโรงพยาบาลตากรุงเทพเพื่อรักษาดวงตาครบวงจร โดยมีเครื่องมือทันสมัยรองรับ ซึ่งก่อนหน้านี้เราเน้นไปที่การทำศัลยกรรมดวงตา 95% เช่น การทำตาสองชั้นผ่านคลินิก “AT MEDICAL CLINIC” เนื่องจากอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง มีมูลค่าตลาดสูงถึง 71,000 -72,000 ล้านบาท แต่หลังจากจัดตั้งโรงพยาบาลตากรุงเทพแล้วจะมุ่งเน้นรักษาดวงตาครบวงจรให้กับคนทุกช่วงวัย
โดยโรงพยาบาลตากรุงเทพมีทีมจักษุแพทย์ และแพทย์ผู้ชำนาญการมากกว่า 23 คน หากรวมบุคลากร และนักทัศนมาตร (Optometrist) หรือ หมอสายตามีรองรับว่า 200 คน มีห้องผ่าตัดใหญ่ (Major Operating Rooms) จำนวน 5 ห้อง และห้องผ่าตัดเล็ก (Minor Operating Rooms) จำนวน 7 ห้อง และมีห้องพักสำหรับผู้ป่วยใน นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการเฉพาะทางด้านดวงตา 4 ศูนย์ ประกอบด้วย EBH LASIK CENTER ศูนย์ให้บริการผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ EBH OPHTHALMOLOGY CENTER ศูนย์ให้บริการตรวจรักษาโรคตาและภาวะผิดปกติของดวงตา EBH CHILDREN’S VISION CENTER ศูนย์เฉพาะทางสำหรับการดูแลดวงตาเด็ก และEBH AESTHETIC CENTER ศูนย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมความงาม
ทั้งนี้ EBH วางเป้าหมายในการเป็นผู้นำโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านดวงตาอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยล่าสุดมีรายได้ 500 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตเป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี และจะขยายคลินิก “AT MEDICAL CLINIC” ต่อไป ปีนี้จะมีเพิ่ม 2 สาขาย่านบางนา และขอนแก่น และจะขยายไปตามหัวเมืองต่างๆ ต่อเนื่องให้ได้ 20-30 สาขา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 20% ภายใน 2-3 ปี นอกจากนี้จะขยายธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ เช่น อาหารเสริม เป็นต้น
