back to top

นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล จากความปวดที่ไร้คำตอบ…สู่การค้นพบว่าไลฟ์สไตล์คือสิ่งที่ทำให้โรคปะทุ

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของผิวหนัง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะทางผิวหนัง ยังทำให้เกิดข้ออักเสบได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยปวดมากจนรบกวนการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน หากปล่อยให้มีอาการเรื้อรังในระยะยาวจะส่งผลให้ข้อถูกทำลาย จนก่อให้เกิดความพิการตามมาได้อย่างรวดเร็ว

นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยที่พัฒนายาภูมิคุ้มกันรักษาโรคมะเร็ง จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านประสบการณ์มาด้วยตัวเอง เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนนั้นหมอไตรรักษ์ ทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เขามีอาการปวดกล้ามเนื้อคอ และกราม หาสาเหตุไม่ได้ เคยปวดมากถึงขีดสุดจนอยากหนีจากโลก หมอไตรรักษ์ ใช้เวลาในการค้นหาสาเหตุอยู่หลายปีแต่ไม่พบ และตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทย และหาต้นตอของอาการครั้งใหญ่กระทั่งพบว่าเป็น “โรคสะเก็ดเงินข้ออักเสบ

ตอนนั้น รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล ภรรยา ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อ และระบบภูมิคุ้มกัน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus) พอดี จึงเจาะเลือดของหมอไตรลักษณ์ไปตรวจตามวิธีใหม่ก็พบค่าอักเสบ และเริ่มวินิจฉัยโรค กระทั่งทราบสาเหตุว่าเป็น “โรคสะเก็ดเงินข้ออักเสบ

นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล / รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล

แม้จะรู้สาเหตุจริงๆ แล้ว และทำการรักษาด้วยการให้ยาแล้วก็ยังพบว่า อาการปวดยังไม่หายไปทั้งหมด จวบกับเมื่อสังเกตอาการปวดของตัวเองก็พบว่าหลังออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน กลับมาจะเริ่มมีอาการปวดมาก จึงเริ่มต้นปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ จากไม่เคยระมัดระวังเรื่องอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารขยะ เนื้อสัตว์ กาแฟแบบทรีอินวัน น้ำผลไม้รสหวาน นอนน้อย มาสู่การปรับชีวิตใหม่ 

หมอไตรรักษ์ เริ่มต้นจากลดน้ำหนักด้วยวิธี IF (Intermittent Fasting) วิธีลดน้ำหนักโดยการควบคุมแคลอรี และจำกัดเวลาในการทานอาหาร เขากิน 2 มื้อต่อวัน และเลือกบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ รับประทานผักครึ่งหนึ่งของจาน อีก 25% เป็นข้าวกล้อง และธัญพืช และอีก 25% เป็นเนื้อสัตว์ เลือกวัตถุดิบออแกนิกจากสวนที่เชื่อถือได้ และควบคุมอาหารหวาน รวมถึงผลไม้รสหวานด้วย เพราะเขาทราบดีว่า “น้ำตาลกระตุ้นการอักเสบ” ซึ่งจะทำให้อาการปวดของเขาปะทุขึ้นได้ง่าย 

เมื่อน้ำหนักเริ่มลดลง อาการปวดบรรเทาลง แต่ก็ไม่หมดไป เขาเริ่มขยับมาออกกำลังกายเป็นประจำ คุมความเครียด นอนให้พอ และทำสมาธิแบบกำหนดจิตทุกวัน โดยเรื่องนี้เขา รับประกันว่า การทำสมาธิช่วยลดการเกร็ง ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดการอักเสบ ลดการปวดได้ สมาธิสำหรับแนวทางของหมอไตรลักษณ์น่าสนใจไม่น้อย หมอบอกว่า ไม่ใช่ให้หยุดคิด เพราะจะไปหยุดสมองคิดไม่ได้ แต่หางานง่ายๆ ให้ หมายถึงให้ใช้ความคิดแบบง่ายๆ 

หมอไตรลักษณ์ อธิบายถึงการหางานง่ายๆ ให้ความคิดทำ โดยการท่องคำภาวนา (Mantra) ซึ่งคนไทยคุ้นชินกับการท่อง พุทธ-โธ ตามการเข้าออกลมหายใจ แต่จริงๆ หมอ แนะนำว่า สามารถใช้กับคำภาวนาแบบใดก็ได้ที่ช่วยให้เราจดจ่อไปกับถ้อยคำนั้นๆ สัก 15นาที ฝึกไปฝึกมาหลายปี ตอนนี้เขาไม่ได้กำหนดว่าต้องนั่งภาวนา แต่สามารถภาวนาได้ทุกช่วงเวลาที่เอื้ออำนวย 10 ปีผ่านมาด้วยความตั้งใจของเขาทั้งหมด ตอนนี้อาการปวดจากโรคหายไปเกือบ 90% แล้ว ทำให้เขาอยู่กับโรคเรื้อรังอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

หมอประภาพร ช่วยอธิบายถึง ภาวะการอักเสบว่า สัมพันธ์กับโรคต่างๆ มากมาย ทั้งหัวใจ ความดันโลหิต สูง เบาหวาน อัลไซเมอร์ มะเร็ง รวมถึงแพ้ภูมิ รูมาตอยด์ SLE ออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น ซึ่งการอักเสบจะไปเร่งให้โรคต่างๆ ดำเนินไปเร็วขึ้น และหากปล่อยให้อักเสบเรื้อรังยังเป็นตัวเร่งความชราด้วย หมายถึงความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ที่เร็วขึ้น เท่ากับความเสี่ยงสุขภาพที่มากับอายุก็จะมาเร็วด้วยเช่นกัน อาทิ ภูมิคุ้มกันลดลงแล้วก็ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เป็นต้น 

แล้วการอักเสบในร่างกายเกิดขึ้นได้อย่างไร หมอประภาพร  ระบุว่า มาจากหลายปัจจัยทั้งจากมลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) อาหาร นอนไม่พอ ความเครียด การออกกำลังกายไม่พอ เป็นต้น ดังนั้น เวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) แนวทางการแพทย์แบบบูรณาการที่ผสมผสานหลักการแพทย์ปัจจุบันกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อการป้องกัน บรรเทา และสนับสนุนการรักษาโรค จึงเป็นวิถีใหม่ของแพทย์ในต่างประเทศ ทั้งนี้ Lifestyle Medicine มีผลต่อคนไข้ และการรักษาอย่างมาก เพราะการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจะช่วยลดการใช้ยาได้ และทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น ช่วยลดอาการปวดโดยเฉพาะจากข้ออักเสบที่เกิดจากแพ้ภูมิตัวเอง รูมาตอยด์ สะเก็ดเงินข้ออักเสบอย่างที่หมอไตรลักษณ์มีประสบการณ์มาแล้ว

อย่างไรก็ตามแนวคิดการรักษาแบบเวชศาสตร์วิถีชีวิตอาจจะมีข้อจำกัดในการทำที่โรงพยาบาล เพราะแพทย์จะมีเวลาคุยกับคนไข้แต่ละรายไม่มากนัก แต่การแพทย์เวชศาสตร์วิถีชีวิตส่งผลดีต่อคนไข้อย่างแน่นอนเป็นแรงผลักดันให้หมอไตรลักษณ์ และหมอประภาพรได้ทำคลินิก “BeeAlive Clinic” ซึ่งเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านโรคระบบภูมิคุ้มกัน และภาวะอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเตรียมจะเปิดให้บริการวันที่ 2 มกราคม 2569 ที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้คนไข้  

โดยนำแพลตฟอร์ม “BeeAlive Technology” ที่พัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญมาใช้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการให้ความรู้ ติดตาม และกระตุ้นเตือนคนไข้ให้ปรับพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยจะออกแบบให้เฉพาะบุคคลตามโรคและอาการที่เขาเป็น อนาคตหมอไตรลักษณ์ และ หมอประภาพร จะพัฒนาให้เป็น “อะแคเดมี” มีการจัดเวิร์กช้อปเป็นระยะๆ เป็นสังคมเล็กๆ ให้คนไข้ได้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ เพื่อให้อยู่กับโรคเรื้อรังอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี