แค่บทนำก็ทำให้เราประทับใจใน “คิมอึนแจ” ผู้เขียนหนังสือ “เธอไม่ได้ผิดอะไร แค่อยากให้เข้าใจว่ากำลังเติบโต” แปลโดย ตรองสิริ ทองคำใส เพราะเขามีความเป็นห่วงวัยรุ่นยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาสังคมก็ซับซ้อน หลายคนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร แม้คนในครอบครัวก็อาจช่วยไม่ได้
คิมอึนแจ ทราบข้อนี้ดีด้วยเจอะเจอวัยรุ่นมากว่า 15 ปี ได้รับฟังเรื่องราวของเขามากมาย และให้คำปรึกษาไปมากมายเช่นเดียวกัน บางคนก็กลัดกลุ้ม เพราะเส้นทางชีวิตในวันข้างหน้า บ้างทุกข์ใจเพราะการเรียน บ้างหดหู่ซึมเศร้า เพราะปัญหาครอบครัว บ้างปวดร้าวใจเพราะความรัก ทำอย่างไรเด็กหนุ่มสาวจะไม่ทุรนทุราย เพราะกลัดกลุ้ม และบ่มเพาะศักยภาพในตัวให้เติบโตได้สมดั่งใจ
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของวัยรุ่นก็คือ “ความรัก” นั่นเอง เรื่องนี้ คิมอึนแจ ผู้เขียนเล่าว่า มีคำถามเข้ามาว่า จะเลิกกับแฟนดีไหม หรือควรเลิกกับเธอผู้เป็นรักแรกไหม
การเลิกราต้องใช้ความกล้าหาญ มีการเปรียบเปรยว่า เหมือนซื้อของแล้วคิดว่าถูกใจแล้ว แต่มีอันต้องคืนด้วยปัญหาการใช้งาน พอจะไปคืนก็ไม่ใช่ง่าย ประสาอะไรกับการยุติความสัมพันธ์ เพราะเมื่อรับคนคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต เขาก็เป็นอิทธิพลครั้งใหญ่ในชีวิตของเรานับจากนั้น จากสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และเมื่อคบกันแล้วมีอันต้องจบความสัมพันธ์ ย่อมเป็นการตัดสินใจที่ยาก เพราะหมายถึงสิ่งต่างๆ ที่ทำร่วมกันต้องยุติลงด้วย และทุกครั้งที่ผ่านร้านอาหาร หรือโรงภาพยนตร์ ร้านกาแฟ ความทรงจำจะทิ่มแทงเราอย่างเจ็บปวดเสมอ
คิมอึนแจ แนะนำให้วัยรุ่นที่ประสบปัญหา และไม่กล้าที่จะยุติความสัมพันธ์ ให้ทบทวนว่า ชีวิตรักที่กำลังเป็นอยู่นั้น ทำให้ความเคารพตัวเองลดต่ำลงหรือไม่ โดยให้ตอบคำถามดังต่อไปนี้ ชอบกันจริงไหม? ความสัมพันธ์ของคนสองคนเสมอภาคกันไหม? อีกฝ่ายยอมรับความรู้สึก ปลุกปลอบเรา และทำให้เราคิดว่าดีพอหรือไม่? หากคำตอบน่าพอใจแสดงว่ากำลังมีรักที่ทำให้ความเคารพในตัวเองสูง หากไม่ใช่ก็แสดงว่าความรักทำให้ความเคารพในตัวเองต่ำ
ลักษณะเด่นของความสัมพันธ์ที่ทำให้ความเคารพตัวเองต่ำ จะเป็นลักษณะ “ก็ไม่ได้ชอบเขานัก แต่เขามาชอบก่อน เลยคบดู” หรือไม่ก็ “เราชอบเขาก่อน แต่เขาเฉยๆ” แบบนี้เมื่อตกลงสานสัมพันธ์แล้ว คนใดคนหนึ่งจะมีอำนาจเหนือกว่า แล้วอีกคนต้องปรับตัวฝ่ายเดียว การคบกันจึงเป็นเรื่องของความลำบากใจ แต่ทนคบ เพราะกลัวการเลิกกัน “ฉันมีแฟน” หรือ “เป็นรักแรก” ดูจะเป็นคำที่หลายคนอยากจะคงสถานะนี้ไว้
หากแต่คบแล้วตัวเราเล็กลงเรื่อยๆ หัวใจก็มีแต่กลวงเปล่า อย่างนี้การเลิกกันก็น่าจะดีกว่า เพราะควรใช้เวลาที่มีค่าของเรา เพื่อคนที่ทำให้เราสุขใจและถนอมเราจริงๆ จะดีกว่า ก็ในเมื่อเรามีสิทธิ์ที่จะเป็นที่รัก และได้รับการให้เกียรติไม่ใช่หรือ ไม่เห็นต้องฝืนทนคบกัน เพราะเป็นรักแรก แต่เอาเข้าใจริงเราก็เป็นแค่กระโถนรองรับอารมณ์ของอีกฝ่าย เจอกันทีไร เอาแต่ต่อว่า ประชดประชัน ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจเลย เมื่อเห็นจุดจบอยู่รอมร่อ แต่การฝ่าฟันเพื่อให้หลุดพ้นจากความคุ้นเคยต้องอาศัยความกล้าหาญอยู่พอสมควร
แต่คิมอึนแจ ให้มองบวกเข้าไว้ เขาบอกว่า เมื่อวันวานเมื่อถึงจุดของความพอใจยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นต้องคบกัน ซึ่งการจะบอกว่าเขาคนนั้นเป็นคนแบบไหนนั้นยาก จนกว่าจะลองคบ ดังนั้นหากมีคนที่ชอบ การลองคบก่อนจึงเป็นเรื่องที่ดีแล้ว และการที่เรามีประสบการณ์ก็จะช่วยให้เห็นคนหลายๆ แง่มุม ช่วยให้รู้ว่าเราเหมาะกับคนแบบไหนกัน หรือต้องการคนแบบไหนกันแน่ และเอาเข้าจริงแล้ว การมีแฟนก็ทำให้เรารู้ว่าเราเป็นคนแบบไหนด้วย จากการเรียนรู้ความสันพันธ์ที่ขาดๆ เกินๆ เช่น ที่แท้เราชอบคนแบบนี้นี่เอง คุยแล้วสบายใจ! ผู้เขียนให้คิดว่า “ก็แค่หัดทำแพนเค้กครั้งแรก ถ้าล้มเหลว ก็โยนทิ้งไป แค่นั้น” ดังนั้นหากคบคนที่ไม่ใช่ก็ต้องกล้าเลิก เรียนรู้จากความรักที่เลิกรา แล้วไปต่อ เมื่อถึงวันหนึ่งจะคิดได้ว่า “ดีจังที่เลิกกันตอนนั้น”
สิ่งที่ควรทำหากต้องบอกเลิก
1. บอกตรงๆ และอธิบายเหตุผล แต่หากอีกฝ่ายชอบใช้ความรุนแรงก็ต้องระวังด้วย
2. เขียนจดหมาย อธิบาย เพราะพูดต่อหน้าอาจลำบากใจ ให้เขียนตรงๆ ถึงเหตุผล และอวยพรให้เขามีชีวิตที่ดีต่อไป
สิ่งที่ไม่ควรทำหากต้องบอกเลิก
1. การเงียบหาย เพราะจะเป็นการทำร้ายจิตใจกันหนักกว่า เช่น โทรไปไม่รับสาย หรือส่งข้อความ “เลิกกันเถอะ” แล้วบล็อกทิ้งช่องทางการติดต่อเลย เพราะไม่ใช่วิธีปฏิบัติกับคนที่คบหากัน
2. เลิกแล้วส่งข้อความฟูมฟาย หรือก่นด่าอีกฝ่ายให้เพื่อนๆ ฟัง หรือกุข่าวลือแปลกๆ หรือ ใช้เหตุผลว่าอีกฝ่ายทิ้งตนเองก่อน สมควรถูกใช้ความรุนแรง
สำหรับฝ่ายที่ถูกบอกเลิก ก็ต้องคิดเสียว่า หากหมดหนทางให้เขาเป็นดั่งเก่า ก็ปล่อยเขาไปเถอะ การเคารพความรู้สึกเขา ย่อมดูดีกว่า การยื้อทั้งที่รู้ว่าใจเขาไม่อยู่กับเราแล้ว การเลิกกันด้วยดี เป็นสิ่งสุดท้ายที่คนสองคนจะมอบให้กันในฐานะที่เคยรักกัน แล้ววันหนึ่งที่แสนไกล เมื่อนึกถึงความทรงจำร่วมกัน จะคิดได้ว่าตอนนั้น คือ ความทรงจำที่งดงาม
การผ่านช่วงเวลารอยต่อมาได้ เชื่อว่าทุกคนจะได้พบคนรักที่ทำให้ตัวเองสุขใจอย่างแท้จริง เพราะเมื่อผ่านประสบการณ์ลองคบหาผู้คนที่ชอบพอกัน ผ่านการเจ็บปวดจากการเลิกรา การเอาชนะมาได้ นับเป็นอีกจังหวะหนึ่งของชีวิตที่จะทำให้คุณเติบโต สำคัญคือ เมื่อเจอใครที่ชอบแล้ว ขอให้ทำดีต่อกันไว้
ความสมบูรณ์ของความรักคือ “แยกจากกันให้เป็น” อย่ายื้อไว้เพียงเพราะผูกพัน ทุกคนมีสิทธิที่จะเจอความรักที่ดีกว่า จงกล้าเลิกรา ขอเพียงเอาใจใส่อีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อจะเลิก บอกเหตุผลตรงๆ พูดจาดีๆ และอวยพรให้เขามีชีวิตที่ดี ถ้าถูกบอกเลิก จงเคารพความรู้สึกเขา …การจากลา คืออีกจุดเริ่มต้นเพื่อพบคนรักที่ดีกว่า เพื่อพบรักครั้งใหม่ที่งดงามยิ่งกว่า