back to top

“รักษาสุขภาพช่องปาก เพื่อชีวิตที่มีความสุข” สธ.ดัน 3 นโยบายใหญ่ ผุดรพ.ทันตกรรมให้คนไทยเข้าถึงบริการคุณภาพ

สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจไม่ต่างจากอวัยวะอื่นๆ แต่หลายคนก็ละเลย และอีกหลายคนก็เข้าไม่ถึงสิทธิการรักษาพยาบาล นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า ทันตแพทย์จำนวนทั้งหมดประมาณ 18,000 คน อยู่ในส่วนราชการ 1 ใน 3 หรือ 6,000 คน ดูแลประชาชนประมาณ 80% ถ้าเทียบกับคนไทย 70 ล้านคน คนไทยต้องได้รับบริการพื้นฐานทางด้านทันตกรรมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือต้องไปหาหมอฟัน 140 ล้านครั้ง แต่ส่วนราชการสามารถได้เพียงปีละ 12 ล้านครั้ง ยังไม่ถึง 10% กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้งเป้าภายใน 3 ปี หรือให้บริการเพิ่มขึ้น 3 เท่า และในอนาคตอาจจะไปถึงการสร้างให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางด้านทันตกรรม หรือ Dental Hub

นอกจากการเพิ่มการบริการแล้ว การร่วมมือกันขับเคลื่อนและรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงสุขภาพช่องปากก็มาคู่กันโดยทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ และทันตสาธารณสุข จัดกิจกรรมวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Heath Day) ของประเทศไทยเป็นประจำทุกปี

นพ.โอภาส ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข และองค์กรด้านทันตกรรมในประเทศไทย ได้แก่ ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทันตแพทยสภา กรมอนามัย และภาคีเครือข่ายด้านทันตกรรม ได้ร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดระบบบริหารจัดการด้านทันตกรรมของประเทศไทยในรูปแบบใหม่ โดยสร้างระบบบริหารจัดการด้านบุคลากรทันตกรรม และงบประมาณ ในรูปแบบของโรงพยาบาลทันตกรรมควบคู่ไปกับโรงพยาบาลที่มีอยู่ เพื่อผลักดันนโยบาย 3 ด้าน

1. ให้ความรู้กับประชาชนในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเองเบื้องต้น เช่น เรื่องการแปรงฟันอย่างถูกวิธี แปรงฟันสม่ำเสมอ และการมีอุปกรณ์การแปรงฟันที่ครบถ้วนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่

2. จัดบริการทันตกรรมที่ครอบคลุมถึงประชาชนทั้งทันตแพทย์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ ทันตาภิบาล ให้มีปริมาณที่ครบถ้วนและกระจายตัวทั่วประเทศอย่างเหมาะสม รวมถึงค่าตอบแทนสำหรับผู้ให้บริการที่ต้องให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้ดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

3. ความก้าวหน้าของบุคลากรทันตกรรม โดยต้องเพิ่มปริมาณบุคลากรทันตกรรมและพัฒนาคุณภาพให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับเม็ดเงินที่จะเข้ามาขับเคลื่อนการดูแลผู้ป่วยทันตกรรมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าและมั่นคงในสายวิชาชีพทันตกรรมโดยเฉพาะในหน่วยงานราชการต่างๆ

ด้าน ทันตแพทย์ อดิเรก ศรีวัฒนาวงษา นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ มุ่งเน้นการสื่อสาร ขับเคลื่อน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรภาคีเครือข่ายด้านทันตสุขภาพมาโดยตลอด เพื่อสร้างความตระหนักต่อการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชน ทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้คำขวัญ ‘A Happy Mouth is a Happy Body’

ในวันสุขภาพช่องปากโลกปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการขับเคลื่อนครั้งสำคัญวงการทันตกรรมไทย โดยร่วมกับ 4 องค์กรสำคัญด้านทันตบุคลากร ของประเทศไทย จัด 5 กิจกรรมสำคัญในระดับชาติและระดับนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนวงการทันตกรรมไทย ในทุกมิติ ทั้งนโยบายทันตสาธารณสุข การดูแลผู้ป่วยแบบบูรณาการ การสื่อสารสังคม การสร้างผู้นำทันตแพทย์รุ่นใหม่ ตลอดจนการกำกับดูแลวิชาชีพ

สำหรับกิจกรรมสำคัญของเครือข่ายทันตสาธารณสุขและทันตบุคลากรไทย ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปี 2567 ประกอบด้วย

1. เดือนมีนาคม 2567 กิจกรรม Thailand World Oral Health Day โดยทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

2. เดือนสิงหาคม 2567 การประชุมในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของสมาพันธ์นักศึกษาทันตแพทย์แห่งเอเชียแปซิฟิก โดย สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาทันตแพทย์แห่งประเทศไทย

3. เดือนกันยายน 2567 การเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ของทันตแพทยสภา และ 85 ปี ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

4. วันที่ 7-10 ธันวาคม 2567 การประชุม WHO Global Oral Health Meeting โดย สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย

5. วันที่ 11-13 ธันวาคม 2567 การประชุมวิชาการนานาชาติ Thailand International Dental Congress 2024 โดยทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ  

สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Heath Day) ของประเทศไทย พร้อมทั้งข่าวสารของทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ สามารถติดตามได้ที่ www.thaidental.or.th และ Facebook ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ