back to top

เด็กไทย 40% เป็นภูมิแพ้ รับมืออย่างไรตั้งแต่ยังเล็ก

ภูมิแพ้” เหมือนเป็นโรคประจำยุคไปเสียแล้ว ใครๆ ก็เป็น เหตุจากสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เต็มไปด้วยพิษภัย ทั้งฝุ่น PM 2.5 ไรฝุ่น เชื้อรา รวมถึงการใช้สารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ชะล้างทำความสะอาดนานาชนิดซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ 

รศ.พญ.พรรณทิพา ฉัตรชาตรี อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคภูมิแพ้ และอิมมูโนวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแพทย์ที่ปรึกษา ศูนย์ภูมิแพ้เด็ก โรงพยาบาลเด็ก สมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทั้งฝุ่น PM 2.5 ไรฝุ่น เชื้อรา ฝุ่นผงจากซากของแมลงสาบ เป็นต้น นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิดยังทำให้มีการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อโรคซึ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์ชะล้างทำความสะอาดต่างๆ รวมถึงอาการแพ้จากเคมีภัณฑ์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในร่างกายรวมถึงผลิตภัณฑ์เด็กด้วย ซึ่งเด็กเล็กมีผิวที่บอบบางกว่าผู้ใหญ่ถึง 30% และน้ำในผิวก็ระเหยง่ายกว่าผู้ใหญ่ เด็กจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดผื่นแพ้ ซึ่งหากปล่อยให้เกิดอาการแพ้บ่อย เด็กจะนอนหลับไม่สนิทมีผลต่อจิตใจกลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย ดังนั้นพ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลผิวของลูกตั้งแต่แรกเกิด เพื่อป้องกันเด็กเป็นภูมิแพ้

ในส่วนของผิวหนัง เพื่อป้องกันผื่นแพ้ผิวหนังแนะนำให้พ่อแม่เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน ปลอดภัย และมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ เช่น Jojoba Oil เพื่อเติมความชุ่มชื้น และ Defensil-Plus ลดอาการระคายเคือง และสารสกัดจาก Guava Leaf Green Tea, Rose Flower ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เป็นต้น

ผิวของลูกคือผิวแรกของชีวิต การดูแลผิวของลูก ควรเริ่มตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหา เพราะผิวที่แข็งแรงตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงของผื่น และปัญหาผิวระยะยาวได้” 

พญ.สุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และบีเอ็นเอช และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็ก สมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่าในช่วง 10 ปีมานี้พบสถิติเด็กเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้นทั้งภาพรวมและที่มารักษากับโรงพยาบาล 

จากการประเมินพบว่ามีเด็กประมาณ 40% ที่เป็นภูมิแพ้ ทั้งภูมิแพ้ผิวหนัง ทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลพิษ ขณะที่ครอบครัวก็ไม่สามารถเก็บเด็กไว้แต่ในบ้านได้ เพราะยิ่งทำให้ไม่มีภูมิต้านทาน แต่จะทำอย่างไรที่จะช่วยป้องกันภูมิแพ้ในเด็ก ในส่วนของภูมิแพ้ผิวหนังที่เด็กเป็นกันมากนั้น พ่อแม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเด็กจริงๆ โดยต้องอ่านฉลากให้ละเอียดก่อนซื้อถึงส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยเฉพาะแชมพู และโลชั่นบำรุงผิวของเด็ก  

โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีคอนเซปต์ โตไปไม่ป่วย ให้ความสำคัญกับการดูแลเด็กทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิต ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง เช่น มลภาวะ ฝุ่น PM 2.5 สารเคมี อาหารกระตุ้นภูมิแพ้ เราจึงได้ทำงานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดหลายปี เพื่อคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผม รวมถึงโลชั่นสำหรับเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก ซึ่งเด็กโตหรือผู้ใหญ่หรือผู้สูงวัยที่มีผิวหนังแห้งและแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ภายใต้แบรนด์ bear & bloom ที่วางจำหน่ายในช้อปของโรงพยาบาลของกลุ่ม และวางจำหน่ายใน Shopee ด้วยเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย โดยจะมีการประเมินผลตอบรับในช่วงต้นปีหน้าก่อนที่จะมีการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไปในอนาคต 

ทั้งนี้เพราะโรงพยาบาลจะมุ่งการส่งเสริมป้องกันสุขภาพมากกว่าการรักษา เพราะอวัยวะต่างๆ ของร่างกายหากเสียหายจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วก็ยากที่จะกลับมาเหมือนเดิม โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้หากปล่อยปละละเลยตั้งแต่เด็กโรคภูมิแพ้มักจะอยู่กับเราไปตลอด จนถึงวัยผู้ใหญ่อาจหายไปบางช่วง แต่ก็จะกลับมาเป็นอีกในช่วงวัยสูงอายุ ซึ่งการปล่อยให้เกิดภูมิแพ้เรื้อรังจะนำไปสู่การเป็นโรคหอบหืด และภูมิแพ้อาหารได้ง่าย ดังนั้นเราทุกคนทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองคนในครอบครัว สังคมชุมชนต้องช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมของเด็กตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้เขามีสุขภาพแข็งแรงไปจนเติบโต ทำให้ประเทศมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพท่ามกลางอัตราการเกิดที่น้อยลง