อย่าประมาทไข้หวัดใหญ่ เพราะขณะนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในกรุงเทพฯ มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลระบบเฝ้าระวัง DDS ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน พ.ศ. 2568 พบว่ามีผู้ป่วยสะสม 124,091 ราย เสียชีวิต 2 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 2,314.53 ต่อประชากรแสนคน และอัตราตาย 0.037 ต่อประชากรแสนคน
พื้นที่ที่พบอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เขตบางรัก (14,657.36) รองลงมาคือเขตราชเทวี (12,931.42) และเขตพญาไท (8,644.86) ตามลำดับ
ในปี พ.ศ. 2568 พบว่าเดือนกันยายนมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 30–39 ปี (19,795 ราย) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 5–9 ปี (19,416 ราย) และ 20–29 ปี (17,998 ราย) ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนไทย (96,143 ราย) และแรงงานต่างชาติจากพม่า ลาว กัมพูชา (1,504 ราย)
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งสามารถระบาดได้ทุกปี ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในฤดูฝนและฤดูหนาว เชื้อนี้แพร่กระจายได้ง่ายผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม หรือพูดคุย เมื่อสูดดมเข้าไปก็สามารถติดเชื้อได้ อาการมักเริ่มจากไข้สูง ปวดเมื่อย และอ่อนเพลีย หากพบอาการรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง ปากเขียว ชัก ขาดน้ำ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอาการทรุด ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

กรมควบคุมโรคได้แจ้งเตือนให้ประชาชนป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด อย่าประมาท โดยยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่ ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ เลี่ยงสถานที่แออัดหรือพื้นที่ที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก และหยุดเรียน หยุดงาน พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านหากมีอาการป่วย
หากบุตรหลานมีอาการไข้ ไอ หายใจลำบาก หรือซึม ควรหยุดเรียนและรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422