“BeeAlive Technology” แพลตฟอร์มสุขภาพเฉพาะด้าน “การอักเสบและระบบภูมิคุ้มกัน” ประสาน BeeAlive Clinic สนับสนุนการรักษาโรคแบบ Lifestyle Medicine เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพคู่ เพื่อป้องกัน บรรเทา และสนับสนุนการรักษาโรค
งานวิจัยระดับสากลชี้ชัดว่า “การอักเสบเรื้อรัง” (chronic inflammation) และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งอาหาร การนอนหลับ ความเครียด การไม่ขยับร่างกาย มีบทบาทสำคัญต่อโรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ออฟฟิศซินโดรม กลุ่มอาการเมตาบอลิก โรคหัวใจและหลอดเลือด ไปจนถึงมะเร็ง ดังนั้น นอกเหนือจากการรักษาแล้ว การปรับพฤติกรรมมีความสำคัญกับดูแลสุขภาพในระยะยาว แพลตฟอร์ม “BeeAlive Technology” ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพแบบเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) ที่มุ่งเน้นการรักษาแบบบูรณาการ โดยผสมผสานการรักษากับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

“BeeAlive Technology” พัฒนาโดยสตาร์ทอัพด้าน Healthcare ของทีมแพทย์ไทยผู้เชี่ยวชาญด้านการอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกัน และมะเร็ง ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้จะทำงานร่วมกับ “BeeAlive Clinic” คลินิกเฉพาะที่ให้บริการดูแลโรคอักเสบและโรคระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรครูมาตอยด์ SLE กลุ่มโรคแพ้ภูมิตัวเอง ออฟฟิศซินโดรม รวมถึงภาวะอักเสบเรื้อรัง และโรคจากไลฟ์สไตล์ อาทิเช่น เมตาบอลิกซินโดรม โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และกรดยูริกสูง รวมถึงประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด และมะเร็งที่สัมพันธ์กับการอักเสบ ช่วยป้องกันและชะลอโรคเรื้อรังในระยะยาว ซึ่ง BeeAlive Clinic จะเปิดให้บริการวันที่ 2 มกราคม 2569 ที่จะถึงนี้

แพทย์ผู้ก่อตั้ง “BeeAlive Technology” นำทีมโดย รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้อและระบบภูมิคุ้มกัน จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์รักษาโรคอักเสบ และนักวิจัยด้านภูมิคุ้มกันเพื่อทำความเข้าใจกลไกของการอักเสบในโรคต่างๆ และ นพ.ไตรรักษ์ พิสิษฐ์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยที่พัฒนายาภูมิคุ้มกันรักษาโรคมะเร็ง จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 20 ปีในการทำงานกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา
รศ.พญ.ประภาพร กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคข้อและโรคภูมิคุ้มกันจำนวนมากไม่ได้ป่วยแค่ ‘ข้อ’ หรือ ‘ภูมิ’ อย่างเดียว แต่มักมีปัญหาเรื่องเมตาบอลิก น้ำหนัก การนอน และความเครียดร่วมด้วย แพลตฟอร์ม “BeeAlive Technology” จึงถูกออกแบบเพื่อช่วยดูแลคนไข้ทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ค่าตรวจเลือดหรือภาพรังสี แต่เราต้องการแปลงความรู้เรื่องการอักเสบที่ซับซ้อน ให้กลายเป็นก้าวเล็กๆ ที่คนไข้ทำได้จริงทุกวันผ่านไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสม โดยจะมีการติดตามอาการและพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาจช่วยลดภาระโรคอักเสบ โรคภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงมะเร็งในระยะยาวได้ สอดคล้องกับสโลแกน “BeeAlive – Unlock the better you.” ปลดล็อกเวอร์ชันที่ดีกว่าของตัวคุณ
“Lifestyle Medicine เป็นโมเดลการดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ ที่ผสานการรักษา เทคโนโลยี และการปรับพฤติกรรมเข้าด้วยกัน เพราะเป้าหมายไม่ใช่เพียงแค่ “รักษาโรค” แต่คือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผ่านแพลตฟอร์ม “BeeAlive Technology” ที่จะช่วยผู้ป่วยให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมในระยะยาว”
ด้าน นพ.ไตรรักษ์ เสริมว่า ในฐานะแพทย์ผู้พัฒนายารักษามะเร็ง เห็นชัดว่าปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์และภาวะอักเสบเรื้อรังมีบทบาทต่อทั้งการเกิดมะเร็งและการตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด แพลตฟอร์ม“BeeAlive Technology” จึงพยายามเชื่อมโรคต่างๆ ทั้งมะเร็ง ภูมิคุ้มกัน และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน เพื่อลดความเสี่ยงตั้งแต่วันนี้
สำหรับการใช้งานแพลตฟอร์ม “ BeeAlive Technology” จะติดตั้งผ่าน BeeAlive Clinic คลินิกซึ่งตั้งอยู่บนถนนประชาชื่น กรุงเทพมหานคร โดยผู้ป่วยที่คลินิกจะได้รับการประเมินทั้งจากมุมมองโรคอักเสบ ระบบภูมิคุ้มกัน ความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และไลฟ์สไตล์ ร่วมกับโปรแกรมปรับพฤติกรรมที่ออกแบบเฉพาะบุคคล โดยมีแพลตฟอร์ม BeeAlive Technology ซึ่งใช้ AI เป็น “ผู้ช่วยดิจิทัล” คอยสนับสนุน ซึ่งข้อมูลและประสบการณ์จากคลินิกจะถูกนำกลับไปใช้พัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับคำแนะนำแก่ผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม



