จากการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากรจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2567 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปดื่มสุราทั้งสิ้น 20.9 ล้านคน จำนวนนี้เป็นผู้ที่ดื่มสม่ำเสมอ 8.3 ล้านคน กลุ่มอายุ 25 – 44 ปี มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงที่สุด
ทั้งนี้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคตับ โรคหัวใจ โรคมะเร็งหลายชนิด ทั้งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดความรุนแรงในครอบครัว พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และหากดื่มแอลกอฮอล์และขับยานพาหนะยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจรบนท้องถนน
จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พบว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ถึง 5 มกราคม 2569 เกิดอุบัติเหตุ 2,467 ครั้ง บาดเจ็บ 2,376 ราย เสียชีวิต 436 ราย สาเหตุดื่มแล้วขับ 20.5% ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16.5% ส่วนสาเหตุอื่นมาจากขับรถเร็ว 39.1% ตัดหน้ากระชั้นชิด 21.6% ทัศนวิสัย 17.4% สภาพถนน 5.2% จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด สุราษฎร์ธานี 89 ครั้ง ตรัง 78 ครั้ง ภูเก็ต 74 ครั้ง เชียงราย 72 ครั้ง ประจวบคีรีขันธ์ 70 ครั้ง น่าน 68 ครั้ง แพร่ 67 ครั้ง ลำปาง 62 ครั้ง
สำหรับผลต่อสุขภาพของการดื่มแอลกอฮอล์ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีผลทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง มีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น หากสามารถหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จะทำให้ตับมีการฟื้นตัวได้ภายใน 3 เดือน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการขับเคลื่อนโครงการเชิญ ชวน เชียร์ ลด ละ เลิกเหล้า และเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นที่ครอบครัวเชิญชวนคนในบ้าน ซึ่งในช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาจากการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ซึ่งเป็นกลไกที่มีบทบาทขับเคลื่อนดำเนินงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชิญ ชวน เชียร์ผู้ที่ต้องการลด ละ เลิกเหล้าและผู้ที่มีปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้เข้ารับการบำบัดรักษาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ขอเชิญชวนให้ประชาชน ลด ละ เลิกเหล้าตลอดปี เพื่อการมีสุขภาพที่ดี นำไปสู่การเลิกเหล้าตลอดชีวิตต่อไป
ข้อมูล : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย
