“ผมอยู่อเมริกามา 40 ปีวันหนึ่งก็ตัดสินใจกับภรรยาที่จะกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายในเมืองไทย และเราก็เลือกที่จะมาเช่าอยู่โครงการที่พักผู้สูงอายุที่นนทบุรีเมื่อ 1 ปีก่อน”
คุณลุงสุทัศน์ ทัศนไพโรจน์ อายุ 84 ปีเล่าให้เราฟังหลังทำกิจกรรมออกกำลังกายกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในโครงการเดียวกัน ความสดชื่นแจ่มใสปรากฏให้เห็นตรงหน้า คุณลุง บอกกับเราว่า ชอบออกกำลังกาย ที่โครงการมีกิจกรรมให้เราทำทุกวัน มีไทชิ ไม้พลอง ยางยืด สลับกันไปแล้วก็มีว่ายน้ำ มีห้องเล่นกิจกรรม เช่น บอร์ดเกม ที่สำคัญ คือ ที่พักดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงกรณีฉุกเฉิน มีเครื่องวัดความดันให้ในห้อง มีคนมาทำความสะอาดห้องให้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เครื่องซักผ้าก็มีให้ซักเอง รู้สึกสบายใจที่จะอยู่ อีกอย่างที่ประทับใจ คือพนักงานเอาใจใส่ช่วยเหลือเราทุกอย่าง
“อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้เยอะๆ เพราะประเทศไทยมีผู้สูงอายุเปอร์เซ็นต์สูง มาอยู่แบบนี้ลูกก็ไม่ต้องห่วงออกไปทำงานได้อย่างสบายใจ ฝากเพื่อนว่าตอนนี้ที่ไทยมีบ้านพักคุณภาพดีอย่างน้อยก็ที่นี้ มีคนมาอยู่กับเรามากขึ้นก็ดีจะได้มีเพื่อน”
โครงการที่พักผู้สูงอายุที่นนทบุรีที่คุณลุงสุทัศน์ พูดถึงคือ “นายา เรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล (Naya Residence by LivWell” โครงการที่อยู่อาศัยแนวคิด Independent Living ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโครงการที่กลุ่มนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ปรับโฉมคอนโดมิเนียมที่สร้างยุคแรกๆ เมื่อ 2540 อย่าง “ริเวอร์ไรน์ เพลส” (Riverine Place) ที่ยังเหลือขาย 1 อาคาร 7 ชั้น 70 ยูนิตมาจัดเป็นห้องชุดให้เช่าสำหรับผู้สูงวัยซึ่งให้เช่าทั้งแบบระยะสั้นจนถึงระยะยาวตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปสูงสุด 30 ปี ตามความต้องการของลูกค้าที่ถูกเรียกว่า “วัยอิสระ” เปิดให้เข้าอยู่ไปเมื่อปลายปี 2564 ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้ว 30 ยูนิต
นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานกรรมการ, กรรมการบริหาร บริษัท นายา เรสซิเด้นทซ์ ให้ข้อมูลว่า ได้ศึกษารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุในหลายประเทศทั้งการดูแลสุขภาพและการบริการที่ครอบคลุม และร่วมมือกับ พญ.นาฏ ฟองสมุทร กรรมการบริหารด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี บริษัท ลิฟเวล ลิฟวิ่ง จำกัด (LivWell) มาตั้งต้นในการ setup การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ใช่แบบ Nursing Homes ที่พึ่งพาระบบอย่างเต็มรูปแบบ แต่เป็นคอนเซปต์ Senior Living ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนของผู้สูงวัยในปัจจุบัน ซึ่งผสมผสานความเป็นอิสระและการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร
โครงการ Naya Residence จัดให้มีที่พัก สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย การจัดบริการต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพเบื้องต้น การจัดกิจกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพกายใจ ออกแบบตามแนวคิด Universal Design เช่น พื้นดูดซับแรงกระแทกช่วยลดความเสี่ยงบาดเจ็บจากการล้ม รองรับการใช้งานของผู้ใช้รถเข็น ห้องน้ำออกแบบให้เหมาะกับผู้สูงอายุ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีเช่น อุปกรณ์ติดตาม GPS และปุ่ม SOS สำหรับแจ้งเตือนฉุกเฉิน พยาบาลวิชาชีพดูแล 24 ชม.
“ที่โครงการนอกจะมีผู้เช่าใหม่ที่เป็นผู้สูงอายุแล้ว คอนโดมิเนียม 2 อาคารที่อยู่ติดกันซึ่งเราขายเมื่อ 20 ปีก่อนคนซื้อตอนนั้นปัจจุบันก็อายุ 60 ปี ก็มาซื้อแพคเกจดูแลสุขภาพกรณีฉุกเฉิน และทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับผู้เช่าใน Naya Residence ซึ่งที่นี่จะเป็น R&D ของเรา ก่อนที่จะขยับไปทำที่อื่นต่อไป ซึ่งภูเก็ตเราก็สนใจ”
สำหรับค่าเช่าโครงการฯ ขนาด 1 ห้องนอน 62, 69 และ 76 ตรม. ค่าเช่า 50,000, 53,000 และ 57,000 บาทต่อเดือน 2 ห้องนอน ขนาด 106 และ 120 ตรม. ค่าเช่า 69,000 และ 77,000 บาท ตามลำดับ มีแพทย์ให้คำปรึกษาอาทิตย์ละ 1 ครั้ง มีพยาบาลวิชาชีพประจำโครงการ 24 ชม. โดยราคานี้ไม่รวมค่าน้ำไฟ และบริการอื่นๆ เช่น ค่าอาหาร หรือการพาไปพบแพทย์ตามนัด เป็นต้น
พญ.นาฏ ฟองสมุทร ย้ำสถานการณ์ว่า เทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งแต่ละปีมีผู้ที่อายุแตะเลข 60 ปีละ 1-1.7 ล้านคน โดยปีนี้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว มีประชาชนสูงวัยมากกว่า 14.03 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด และในอีก 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเข้าสู่ “Super aged society” ที่ผู้สูงวัยจะมีสัดส่วนทะลุ 28%
สำหรับผู้สูงวัยของไทยอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 85 ปี ดังนั้นวัตถุประสงค์ของเราต้องการให้ช่วงชีวิตที่เหลือ 20 กว่าปีของเขามีชีวิตอิสระ มีศักดิ์ศรี พึ่งพาตัวเองได้ โจทย์ของเราจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างสถานที่ที่จะช่วยลดขนาดของชีวิตลง โดยผลักให้คนอื่นดูแลแทน ซึ่งเราเข้ามาสนับสนุนภารกิจนี้ ทำโครงการที่เป็นสัปปายะ ติดริมน้ำ เงียบสงบ อบอุ่น ปลอดภัย มีการดูแลในช่วงฉุกเฉิน สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เกิดเป็นชุมชนผู้สูงวัย มีกิจกรรมออกกำลังกายหลากหลาย เช่น การว่ายน้ำ และจัดห้องกิจกรรมที่จะช่วยให้เขาออกมาใช้ชีวิตนอก ขณะเดียวกัน ลูกหลานก็แวะมาดูแลผู้สูงอายุได้ ทำให้ทุกๆ วันเขาก็ออกไปทำงานอย่างสบายใจ
คอนเซปต์ของที่นี่เราจึงเรียกผู้สูงอายุว่า “วัยอิสระ” เพราะเป็นผู้สูงอายุที่แข็งแรง ดูแลตัวเองได้ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ไม่ใช่ที่พักฟื้นคนชรา แต่คือบ้านที่ปลอดภัย มีคนดูแลช่วยเหลือ ต่างจากคอนเซปต์ Nursing Homes ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงแล้ว
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราจะเป็นวัยเกษียณ 60 ปีขึ้นไปที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งมักจะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของผู้สูงอายุทั้งหมด รวมถึงอีกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยที่อาจจะไปอยู่ต่างประเทศมานาน และต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณในเมืองไทย
ทั้งนี้ Naya Residence เปิดให้เช่ามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่มีการเคลื่อนไหวล่าสุด ก็คือการจับมือกับเมืองไทยประกันชีวิต ไม่เฉพาะเชื่อมต่อกันด้วยผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ แต่เป็นการร่วมมือทำด้วยกันด้วย Passion เดียวกัน
นายสาระ ล่ำซํา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) บอกว่า เมืองไทยประกันชีวิต ได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท นายา เรสซิเด้นซ์ จํากัด และ บริษัท ลิฟเวล ลิฟวิ่ง จํากัด บริษัทฯละ 40% เป็นจุดเริ่มต้นสําหรับการดูแลและตอบรับการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงวัยอย่างจริงจัง โดยเราได้ต่อยอดเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเมืองไทยที่ซื้อประกันบำนาญตามแบบที่กำหนดสามารถระบุเลือกผู้รับผลประโยชน์เป็น Senior Facilities ในเครือข่ายได้ โดยจะเริ่มจาก Naya Residence by LivWell เป็นแห่งแรก เพื่อให้ลูกค้านำเงินรับผลประโยชน์มาเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยในช่วงเกษียณ ไม่นับรวมผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของผู้สูงวัยอื่นๆ อาทิ คุ้มครองโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน เป็นต้น
“สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ลูกๆ มีครอบครัวที่เขาต้องดูแล ดังนั้นวัยเกษียณในยุคนี้อาจไม่ต้องมีบ้านใหญ่โต แต่มีเพื่อน มีคนดูแล โจทย์ประเทศไทย คือ ผู้สูงวัยเงินออมไม่พอ ดังนั้นการวางแผนทางด้านการเงินก่อนเกษียณจึงสำคัญมาก เพื่อเตรียมพร้อมให้มีเงินพอใช้ชีวิตในช่วงสูงวัยที่เราอาจต้องอยู่ยาว”