น้องๆ สัตว์เลี้ยง ช่วยฮีลใจเราได้เป็นอย่างดี เขาถูกเลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว อยากพาไปทุกที่ที่ไปได้ อยากให้เขากินของดีๆ เหมือนเรา แต่โลกและโรคของเขาก็ไม่เหมือนกับเราเสียทีเดียว อย่างไรเสียก็ประมาทไม่ได้กับโรคภัยของน้องๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พาสัตว์เลี้ยงไปอยู่ด้วยได้ หรือคาเฟ่สัตว์เลี้ยงต่างๆ
กรมอนามัยออกโรง แนะ 5 แนวทางปฏิบัติ สำหรับคาเฟ่สัตว์เลี้ยง โดยเน้นย้ำ แยกสถานที่ปรุง ประกอบอาหาร และบริเวณที่จำหน่ายอาหาร แยกบริเวณเลี้ยงสัตว์ให้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกระแส ‘คาเฟ่สัตว์เลี้ยง’ ที่กำลังเป็นที่นิยม ควรปฏิบัติตามแนวทางสำหรับร้านอาหารที่มีลักษณะการประกอบกิจการที่มีการเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน (Zoonoses) ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส เช่น โรคพิษสุนัขบ้า และโรคไข้หวัดนก แบคทีเรีย เช่น โรคฉี่หนู โรคบาดทะยัก และโรคไข้กระต่าย เชื้อรา เช่น โรคเชื้อราจากผิวหนังแมว และโรคเชื้อรามูลนก เชื้อโปรโตซัว ปรสิต เช่น โรคพยาธิปากขอ และโรคไข้ขี้แมว เป็นต้น
สำหรับแนวทางปฏิบัติ มีดังนี้
1) ร้านอาหารที่มีการอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในร้านอาหาร ควรจัดสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมแยกเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับบริเวณที่ปรุง ประกอบอาหาร จำหน่ายอาหาร และที่นั่งรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันเส้นขน หมัด หรือสารคัดหลั่งจากสัตว์ ฯลฯ ปนเปื้อนในอาหาร และโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
2) กรณีร้านอาหารนำสัตว์เลี้ยงมาเป็นกิจกรรมดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้าใช้บริการ ควรแยกเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับสถานที่นั่งรับประทานอาหาร บริเวณที่จำหน่ายอาหาร หรือปรุงประกอบอาหาร
3) มีการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ทำความสะอาดสัตว์และมีการฆ่าเชื้อคอกสัตว์หรือบริเวณที่สัตว์อยู่เป็นประจำทุกวัน
4) มีมาตรการให้พนักงานที่มีการสัมผัสสัตว์เลี้ยงต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนปฏิบัติงานด้านอาหาร เช่น ก่อนปรุง ประกอบอาหาร จำหน่ายอาหาร และเสิร์ฟอาหาร เป็นต้น และ
5) มีมาตรการให้ผู้มาใช้บริการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังจากสัมผัสสัตว์
ทั้งนี้ การประกอบกิจการดังกล่าว ยังเข้าข่ายเป็น “สถานที่จำหน่ายอาหาร” ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องขอรับใบอนุญาต ในกรณีสถานที่มีพื้นที่ประกอบกิจการเกิน 200 ตารางเมตร หรือขอรับหนังสือรับรองการแจ้ง กรณีสถานที่มีพื้นที่ประกอบกิจการไม่เกิน 200 ตารางเมตร และยังต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทกิจการกลุ่มที่ 1 กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (2) การประกอบกิจการเลี้ยง รวบรวมสัตว์ หรือธุรกิจอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าชมหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการนั้น ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บ ค่าดูหรือค่าบริการในทางตรง หรือทางอ้อม หรือไม่ก็ตาม โดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เป็นตามกฎหมายด้วย